วันจันทร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

การต่อสายและการใช้งานโปรเจคเตอร์ อย่างถูกต้องที่สุด

การต่อสายและการใช้งานโปรเจคเตอร์ อย่างถูกต้องที่สุด 


projectorok.com/image/data/webpic/520.jpg" alt="" width="500" height="355" />



     อันดับแรก ผู้ใช้จะต้องต่อสายสัญญาณที่ใช้ เช่น HDMI, VGA, RGB, Video หรือ Audio ระหว่างคอมพิวเตอร์กับ Projector เข้าด้วยกันให้เรียบร้อยเสียก่อนที่จะเสียบปลั๊กเปิดเครื่องเพื่อความปลอดภัยของ Projector และคอมพิวเตอร์ของคุณ เนื่องจากการต่อสายสัญญาณ หลังจากที่เปิดเครื่องแล้วอาจจะทำให้ Port หรือจุดต่อสัญญาณของโปรเจคเตอร์และ Computer ของคุณเสียหายได้ ถ้าหากมีแรงดันไฟฟ้า ระหว่างกราวด์ของ Computer และ Projector ต่างกันหรือเรียกว่า "ไฟกระชาก" นั้นเอง นอกจากนั้นอาจทำให้ภาพที่ฉายออกจอ Projector ไม่ถูกต้อง ภาพเพี้ยนหรือไม่ออกเนื่องจากสัญญาณที่ส่งจาก Computer ไม่ Sync กับ Projector ซึ่งจะต้องเสียเวลาสำหรับปรับแต่งใหม่หรือ Adjust ใหม่ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย และลดขั้นตอนการใช้งานจึงแนะนำให้ปฏิบัติตามขั้นตอนดังกล่าวทุกครั้ง ย้ำ!! ทุกครั้งนะครับ

    อันดับที่สอง ในระหว่างมีงานฉายภาพ กรณีมีการพักหรือเบรคระหว่างการประชุม การปิดเครื่องโปรเจคเตอร์เพื่อประหยัดอายุหลอดเป็นความคิดที่ผิด!!  เนื่องจากในระหว่างการเปิดเครื่องจะต้องใช้ไฟฟ้าแรงดันสูงกว่า ในขณะที่หลอดสว่างเต็มที่ ดังนั้นการเปิดเครื่องระหว่างที่หลอดยังร้อนอยู่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่หลอดภาพเสื่อมก่อนเวลาอันสมควร คิดภาพตามนะครับ "เหมือนหลอดกำลังร้อนอยู่เป็นอย่างมาก แล้วมีแรงดันจากไฟฟ้าเข้ามาอีก เพื่อนๆ ลองคิดดูนะครับ หลอดอาจจะช็อตเลยก็ได้" ซึ่งตามสถิติพบว่าโปรเจคเตอร์ที่ใช้งานต่อเนื่องจะมีอายุหลอดมากกว่าโปรเจคเตอร์ที่มีระยะเวลาการใช้แต่ละครั้งน้อย แต่มีการปิด-เปิดบ่อย ดังนั้นในกรณีที่ต้องการพักการประชุมเป็นเวลาสั้นๆ เช่น Coffee Break แนะนำให้กดปุ่ม Mute บนรีโมทเพื่อปิดภาพชั่วคราวแทนการปิดเครื่อง หรือถ้าหากเครื่องนั้นมีฟังก์ชั่น Freez แนะนำให้กด Freez ไว้ครับ หรือฟังก์ชั่นแช่แข็งภาพไว้นั้นเอง

     อันดับที่สาม หลังจบงานต่างๆไม่ว่าจะเป็นงานประชุม หรืองานจัดแสดงต่างๆ จะต้องปิดเครื่องโดยกดปุ่ม Power บนตัวเครื่องหรือบนรีโมทเท่านั้น (กรณีไม่มีรีโมท ก็สามารถกดปุ่มที่เครื่องโปรเจคเตอร์ได้เช่นกัน) ห้ามปิด Main Switch หรือยก Breaker เด็ดขาดครับ เพราะการทำดังกล่าวจะทำให้อายุการใช้งานหลอดภาพลดลงโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว และก่อนที่ถอดสาย Power ออกเพื่อเก็บเครื่องลงกระเป๋าจะต้องแน่ใจว่าพัดลมระบายความร้อนหยุดหมุนแล้วเท่านั้น ซึ่ง Projector รุ่นในปัจจุบันจะใช้เวลาระบายความร้อนหลอดหรือที่เรียกว่า Cooldown น้อยลงมากโดยที่ไม่ทำให้ผู้ใช้เสียเวลารอเหมือน Projector ในยุคแรกๆ บางยี่ห้อ สามารถปิดได้เลยโดยไม่ต้องรอตัวระบายความร้อนหยุดหมุน

 

หวังว่าบทความนี้จะมีประโยนช์กับคนรักโปรเจคเตอร์ด้วยกันนะครับ ^^

โปรเจคเตอร์ Credit : http://www.cdiscount.co.th/pc-laptops/home-office-hardware/oprecchkhet-rphkphaa-i-mobile-i-pro-siikhaaw/f-25020101-mb000004v13.html

อยากรู้ข้อมูลส่วนตรงไหน สามารถขอเข้ามาได้เลยนะครับ


_____________________________________________ 

ติดต่อได้ที่ : 081-359-9940 ถึง 9943 
Website : www.projectorok.com 
Facebook : www.facebook.com/projectorok 
ติดตามการบทความได้ที่ : http://www.projectorok.com/index.php?route=information/news/article
_____________________________________________



เครดิต : http://www.projectorok.com

วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Contrast หรืออัตราส่วนภาพ ที่เหมาะสมของโปรเจคเตอร์



     ดีจ้า วันนี้กลับมาพบกันอีกแล้วนะครับ ประจำสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ วันนี้วันที่ 29 กุมภา 4ปีมีหนึ่ง ทาง ProjectorOK ก็เลยอยากจะจัดบทความข้อมูลดีๆ มาฝากเพื่อนๆ สำหรับคนรักโปรเจคเตอร์กันนะครับ
วันนี้เราจะมาพูดถึงค่า Contrast Ratio ว่าควรมีค่าเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม
ขอขึ้นหัวข้อวันนี้ว่า "Contrast Ratio ที่เหมาะสมของโปรเจคเตอร์"

      มาเริ่มกันเลยครับ ทุกคนรู้จักกันดีว่า ค่า Contrast เป็นค่าของอัตราส่วน ความสวยและความชัดเจนของภาพนั้น อยู่ที่ค่า contrast เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ฉายภาพด้วยอัตราส่วน 4:3 ก็เท่ากับว่า ภาพจะแบ่งออกเป็น 12 ส่วนด้วยกัน ในแต่ละส่วน จะชัดก็ขึ้นอยู่กับค่า Contrast ส่วนใหญ่ค่า Contrast พื้นฐานของโปรเจคเตอร์ก็จะอยู่ราวๆที่ 2000:1 แต่มินิ projector บางตัว ค่า contrast ก็จะอยู่ที่ 800 บ้างก็มี (เป็น projector รุ่นจิ๋วๆ) แต่ถ้าเป็นโปรเจคเตอร์รุ่นใหญ่ขึ้นไปหน่อย จะมีค่า Contrast Ratio ถึง 10,000:1 

     เพื่อนๆ ลองคิดดูว่าถ้า 1 ส่วน จาก 12ส่วน มีค่า Contrast ถึง 10,000:1 จะชัดขนาดไหน แล้วถ้าภาพที่ฉายออกไปเป็นขนาด 4:3 = 12 ส่วน แต่ละส่วนมีค่า Contrasto 10,000:1 ทุกส่วน ภาพที่ออกมานั้น รับรองว่า "จะชัดเจนเป็นอย่างมาก"

     ก่อนเพื่อนๆ จะเลือกซื้อโปรเจคเตอร์ ก็ควรคำนึงถึงตรงนี้ด้วยนะครับ เพราะ " โปรเจคเตอร์ที่ฉายภาพออกมานั้น ต้องอาศัยหลายๆส่วนเข้าด้วยกัน ภาพถึงจะออกมาสวยและชัดที่สุด "

หวังว่า บทความนี้จะเป็นประโยนชน์กับเพื่อนๆ นะครับ ใครมีข้อสงสัย สามารถติดต่อเข้ามาได้นะครับ ส่วนวันนี้ผมต้องขอตัวก่อน บ๊ายบายครับ

โปรเจคเตอร์ราคาถูก Credit : http://unicprojector.com/index.php?route=product/product&filter_tag=mini&product_id=70 คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : โปรเจคเตอร์ราคาถูก

ขอบคุณบทความจาก : http://www.projectorok.com

วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

การเลือกซื้อโปรเจคเตอร์


สวัสดีครับ เจอกันอีกแล้วนะครับ สำหรับการอัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับโปรเจคเตอร์ และวันนี้ผู้บรรยายก็ไม่ใช่ใครที่ไหน กับผมคนเดิมเลยครับ ผมแอดมินโอม จากเว็บไซต์ ProjectorOK.com โดยวันนี้ผมได้รับมอบหมายให้มาบรรยายในหัวข้อ "โปรเจคเตอร์สำหรับมือใหม่" เพื่อเป็นแนวทางช่วยตัดสินใจในการเลือกซื้อโปรเจคเตอร์มาใช้งานในแต่ละด้าน ให้มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ เมื่อไม่ให้เสียเวลา เรามาเริ่มไปพร้อมๆกันเลยครับ
อันดับแรกสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ
  • ต้องถามตัวเราก่อนว่า “จะซื้อไปใช้งานด้านไหน” เช่น การศึกษา ดูกีฬา หรือดูภาพยนตร์ เป็นต้น
  • ต่อมาเมื่อเราได้ข้อมูลแล้วว่า “เราจะเลือกซื้อไปใช้ในด้านอะไร” ให้เรามาดูต่อที่เรื่องของสถานที่ที่เราจะติดตั้งเครื่องโปรเจคเตอร์ให้ดูถึง “แสงสว่างในห้อง ว่ามีแสงรบกวนมากน้อยเพียงใด”
  • เมื่อเราได้สถานที่ติดตั้งแล้ว ดูความสว่างแล้ว ให้เรามาดูต่อที่ “Brightness ของตัวโปรเจคเตอร์ที่เหมาะสม ถ้าห้องแสงรบกวนไม่มากนัก ให้เลือกซื้อโปรเจคเตอร์ที่มีความสว่าง 2,700 – 3,000 Ansi lumens”
  • จากนั้น เราก็จะมาดูในส่วนของ Contrast Ratio. ส่วนใหญ่แล้ว โปรเจคเตอร์ ที่มีความสว่างอยู่ที่ 2,700 – 3,000 Ansi lumens. ค่า Contrast จะอยู่ประมาณที่ 2000:1 อยู่แล้ว
  • ขั้นตอนสุดท้าย เมื่อเราได้ทั้งชนิดการใช้งาน สถานที่ติดตั้ง แสงรบกวน และค่า Contrast Ratio แล้ว เพียงข้อมูลคร่าวๆนี้ เราก็จะสามารถนำข้อมูลตรงนี้ ไปเลือกซื้อโปรเจคเตอร์ได้แล้ว แต่แล้วที่สุด ยี่ห้อโปรเจคเตอร์ที่เพื่อนๆ จะเลือกซื้อใช้งาน ก็สุดแล้วแต่ความชอบของเพื่อนๆ อันนี้ผมขอออกข้อเสนอ
ส่วนวันนี้ผมก็ขอจบหัวข้อ “โปรเจคเตอร์สำหรับมือใหม่” ไว้เพียงเท่านี้ สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อนนะครับ แล้วพบกันใหม่วันหน้า ^^ ไปละๆ

การเลือกซื้อโปรเจคเตอร์ มือใหม่ ไม่ควรพลาด!

 

สวัสดีครับ เจอกันอีกแล้วนะครับ สำหรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโปรเจคเตอร์ และวันนี้ผู้บรรยายก็ไม่ใช่ใครที่ไหน กับผมคนเดิมเลยครับ ผมแอดมินโอม จากเว็บไซต์ ProjectorOK.com โดยวันนี้ผมได้รับมอบหมายให้มาบรรยายในหัวข้อ โปรเจคเตอร์สำหรับมือใหม่ เพื่อเป็นแนวทางช่วยตัดสินใจในการเลือกซื้อโปรเจคเตอร์มาใช้งานในแต่ละด้าน ให้มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ เมื่อไม่ให้เสียเวลา เรามาเริ่มไปพร้อมๆกันเลยครับ
อันดับแรกสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ

  • ต้องถามตัวเราก่อนว่า “จะซื้อไปใช้งานด้านไหน” เช่น การศึกษา ดูกีฬา หรือดูภาพยนตร์ เป็นต้น
  • ต่อมาเมื่อเราได้ข้อมูลแล้วว่า “เราจะเลือกซื้อไปใช้ในด้านอะไร” ให้เรามาดูต่อที่เรื่องของสถานที่ที่เราจะติดตั้งเครื่อง projector ให้ดูถึง “แสงสว่างในห้อง ว่ามีแสงรบกวนมากน้อยเพียงใด”
  • เมื่อเราได้สถานที่ติดตั้งแล้ว ดูความสว่างแล้ว ให้เรามาดูต่อที่ “Brightness ของตัว projector ที่เหมาะสม ถ้าห้องแสงรบกวนไม่มากนัก ให้เลือกซื้อโปรเจคเตอร์ที่มีความสว่าง 2,700 – 3,000 Ansi lumens”
  • จากนั้น เราก็จะมาดูในส่วนของ Contrast Ratio. ส่วนใหญ่แล้ว โปรเจคเตอร์ที่มีความสว่างอยู่ที่ 2,700 – 3,000 Ansi lumens. ค่า Contrast จะอยู่ประมาณที่ 2000:1 อยู่แล้ว
  • ขั้นตอนสุดท้าย เมื่อเราได้ทั้งชนิดการใช้งาน สถานที่ติดตั้ง แสงรบกวน และค่า Contrast Ratio แล้ว เพียงข้อมูลคร่าวๆนี้ เราก็จะสามารถนำข้อมูลตรงนี้ ไปเลือกซื้อโปรเจคเตอร์ได้แล้ว แต่แล้วที่สุด ยี่ห้อโปรเจคเตอร์ที่เพื่อนๆ จะเลือกซื้อใช้งาน ก็สุดแล้วแต่ความชอบของเพื่อนๆ อันนี้ผมขอออกข้อเสนอ
โปรเจคเตอร์ Credit : http://www.alleducare.com/category-ติดตั้งโปรเจคเตอร์-จอรับภาพ-1

ส่วนวันนี้ผมก็ขอจบหัวข้อ “ projector สำหรับมือใหม่” ไว้เพียงเท่านี้ สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อนนะครับ แล้วพบกันใหม่วันหน้า ^^ ไปละๆ



เครดิต : http://www.projectorok.com

วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เทคโนโลยีโปรเจคเตอร์ 3LCD ปะทะ DLP !! ชำแหละ

กลับมาพบกันอีกเหมือนเช่นเคยนะครับ สำหรับข้อมูล หรือทริป เทคนิคดีๆ สำหรับคนรัก "โปรเจคเตอร์"

ก่อนหน้าที่เราพูดถึง ความสว่าง หรือ ช่องต่อสัญญาณ กันไปแล้ว...laughing

วันนี้ผมจะมาพูดถึง เทคโนโลยีของโปรเจคเตอร์ ว่าปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีอะไรที่กำลังมาแรง และผลดีผลเสียต่างกันเช่นไร

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันเลยครับ

 

... cry ปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีหลักๆของ Projector ที่ประมาณ 2แบบด้วยกัน นั้นก็คือ แบบ 3LCD และแบบ DLP

ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีแบบ 3LCD ก็ยังมีได้รับความนิยมโดยทั่วไป ตามองค์กรเล็กๆ หรือตามศูนย์หน่วยงานต่างๆ ก็ยังนิยมที่จะใช้ 3LCD

การทำงานของเทคโนโลยี 3 LCD - DLP

  • เทคโนโลยีแบบ LCD (Liquid Crystal Display) คือการทำงานจะทำโดยการปล่อยลำแสงจากแผ่น LCD 3แผ่น ซึ่งประกอบด้วย ซิลิคอนขนาดเล็กนำมาต่อหรือประกอบกันเป็นแผงๆ แต่ละแผ่นจะทำหน้าที่ของตัวเองคือการปล่อยแม่สีของตัวเองออกมา นั้นก็คือ แดง เขียว น้ำเงิน ออกมาเป็นตัวสร้างภาพ การส่งแสงผ่านแผ่น LCD ทำให้สูญเสียค่าแสงเล็กน้อย ภาพที่ปรากฏออกมาจึงมีความสดใส และสามารถแสดงสีสันได้อย่างสมจริงเป็นธรรมชาติ โดยปัจจุบันจะมีแบบ Single-LCD และ 3LCD และในส่วนของโลกโปรเจคเตอร์ 3lcd ก็ยังมีผู้คนใช้งานอยู่ เพราะราคาที่ถูกกว่า DLP เป็นอย่างมาก บวกกับผลลัพธ์ต่างกันไม่มาก


  • เทคโนโลยีแบบ DLP (Digital Light Processing) คือ ปัจจุบันนี้ในโลกของ โปรเจคเตอร์ เทคโนโลยีนี้ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะทุกค่ายยักษ์ใหญ่จะผลิตเป็นตัว DLP ซะส่วนใหญ่. มันคือเทคโนโลยีการสร้างภาพแบบดิจิตอล ผู้คิดค้นคือ Texas Instrument ลักษณะการทำงานใช้เพียง Chipset เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น เราเรียกมันว่า DMD - Ship (Digital Micro mirror Device Ship) ซึ่งภายในนี้จะประกอบด้วยกระจกชิ้นเล็กๆ เป็นจำนวนมากๆ เพื่อใช้แสดง Pixel ของภาพ จำนวนชิ้นกระจกจะแสดงถึงความละเอียดของภาพ ยิ่งมากชิ้นความคมชัดยิ่งมากขึ้น การทำงานจะทำโดยการสะท้อนแสง เพื่อฉายภาพจากเลนส์ไปยังจอภาพ ตัวนีจะมีน้ำหนักเบามาก เพราะชิปที่นำมาใช้เป็นเพียงขนาดเล็กเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันภาพก็มีความสว่างสูงด้วย.. ในปัจจุบันจะมี Single-Chip DLP คือใช้ DMD-Chip เพียงตัวเดียวพร้อมกับวงล้อสี และ 3-Chip DLP คือใช้ DMD-Chip 3 ตัวในการทำงานแล้วใช้ปริซึมในการแยกสีออกมา ทำให้มีอิสระต่อการทำงานมากยิ่ง โดยถ้าสีใดสีหนึ่งเสียไป ภาพก็ยังสามารถสายออกมาได้อย่างปกติ เพียงแค่สีๆนั้น เพี้ยนไปเล็กน้อยเท่านั้น

    อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ projectorok.com/index.php?route=information/news/detail&news_id=263" target="_blank">เจาะลึก เทคโนโลยี 3LCD & DLP
  • projector Credit : http://theprojectorblog.blogspot.com/

 

ก็จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับเทคโนโลยี 3LCD และ DLP เพื่อนๆคนไหน อยากดูข้อมูลเพิ่มเติม สามารถคลิกตามเข้าไปที่ลิ้งได้เลยนะครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อการเลือกซื้อ ส่วนในวันนี้กระผม Admin Ohm จากทาง ProjectorOK ต้องขอตัวลาไปก่อนนะครับ แล้วพบกันใหม่  สวัสดีจร้าาาา ^^foot-in-mouth



ที่มา : http://www.projectorok.com

วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ช่องต่อสัญญาณของโปรเจคเตอร์

กลับมาพบกันเหมือนเดิมนะครับ แต่วันนี้ทางเราไม่ได้มาพรีวิว Projectorใดทั้งสิ้น เนื่องจากมีหลายคนสงสัยเรื่องช่องต่อสัญญาณของ Projectorวันนี้ทาง ProjectorOK เลยจัดบทความเล็กๆ หน่อยๆ เกี่ยวกับ ช่องต่อสัญญาณมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านได้ชมกันครับกลับมาพบกันเหมือนเดิมนะครับ แต่วันนี้ทางเราไม่ได้มาพรีวิว Projectorใดทั้งสิ้น เนื่องจากมีหลายคนสงสัยเรื่องช่องต่อสัญญาณของโปรเจคเตอร์วันนี้ทาง ProjectorOK เลยจัดบทความเล็กๆ หน่อยๆ เกี่ยวกับ ช่องต่อสัญญาณมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านได้ชมกันครับ

เริ่มกันเลยครับผม

อันดับแรก ขอพูดถึงช่องต่อสัญญาณภาพ ในที่นี้ส่วนใหญ่ช่องต่อสัญญาณภาพของ Projectorจะมีไม่กี่แบบ ประกอบด้วย VGA – DVI และ HDMI

เริ่มจากสายที่มีประสิทธิภาพน้อยที่สุดใน 3 แบบนี้ นั้นก็คือ VGA

projector Credit : http://sluggo.co.za/product/acer-proj-x113/

VGA - ประกอบไปด้วย 3 แบบหลักๆ นั้นก็คือ VGA 9-Pin, VGA 15-Pin, VGA 25-Pin 
สาย VGA นี้จะเป็นเพียงสายสัญญาณภาพเท่านั้น ภาพที่ออกมาสีก็อาจจะไม่สด หรือสวยเท่าที่ควร ทั้งที่ทั้งนั้นอยู่ที่ตัวโปรเจคเตอร์ด้วย ว่ามีประสิทธิภาพมากแค่ไหน

ต่อมา สาย DVI !!
สาย DVI ย่อมาจาก Digital Video Interface เป็นอีกสายที่ได้รับความนิยมในหมู่โปรเจคเตอร์เหมือนกัน สาย DVI แบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่
1. DVI-A
2. DVI-D
3. DVI-I
ผมจะพูดถึงสายที่นิยมใช้กันเป็นส่วนใหญ่ นั้นก็คือสาย DVI-I คือ เป็นการรวมสายสองสายเข้าด้วยกัน สามารถส่งสัญญาณ analog คุณภาพสูงกว่า VGA และก็สัญญาณ Digital เรียกได้ว่าครอบคลุม DVI แต่อย่าลืม มันก็คือแค่ สายสัญญาณภาพ

สุดท้าย!!
 
สาย HDMI ในปัจจุบันนี้ ผู้ใช้งานเรียกกันติดปากกันส่วนใหญ่นั้นก็คือ HDMI . แต่สาย HDMI ก็มีแยกออกไปอีกหลายประเภท แต่ข้อสำคัญของสายประเภทนี้คือ สามารถส่งได้ทั้งสัญญาณภาพและสัญญาณเสียงในเวลาเดียวกัน ภาพและเสียงที่ออกไปนั้นก็มีประสิทธิภาพอย่างมาก ทำให้สาย HDMI เป็นที่นิยมในหมู่โปรเจคเตอร์สมัยปัจจุบันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการดูหนังในห้องนอน หรือการดูกีฬาอยู่ที่บ้าน ส่วนใหญ่ก็จะนิยมสาย HDMI

! แต่ในอนาตตสาย HDMI ก็ยังมีออกไปอีก เช่น HDMI-Base2, HDMI-Base3 แต่ในไทยยังไม่นิยมสักเท่าไหร่ แต่เมื่อไหร่ที่ได้รับความนิยม ทาง ProjectorOK จะรีบนำข่าวสารมาบอกต่อกันเลยครับ

สำหรับวันนี้ผมต้องขอตัวลาไปก่อนนะครับ แล้วมาเจอกันใหม่ คราวหน้า สวัสดีครับบบบ ^^innocent

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : projector

ที่มา : http://www.projectorok.com

วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Technicial Projector

สวัสดีจ้า วันนี้กลับมาพบกับผมอีกครั้ง ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวก่อนเลยนะครับ กระผมAdmin Ohm จากเว็บไซต์ projectorok.com ศูนย์รวมโปรเจคเตอร์ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นด้านการจำหน่าย บริการติดตั้ง เช่า ซ่อม ตรวจเช็คสภาพเครื่องฟรี!! พร้อมให้คำปรึกษาหน้างาน ทางเรามีสินค้าให้บริการมากมายหลากหลาย อาทิเช่น โปรเจคเตอร์ เครื่องฉายภาพ 3 มิติ กระดานอัฉริยะ จอรับภาพ อุปกรณ์ต่อพ่วง และอุปกรณ์ไอที พร้อมทีมงานมากด้วยคุณภาพ เปิดมามากกว่า 10 ปี สนใจติดต่อได้เลยครับ 081-359-9940 ถึง 43

เรามาเข้าหัวข้อเรื่องกันเลยครับ อย่างที่กล่าวไปตอนแรก วันนี้เราจะมาพูดถึงเทคนิคการปรับแต่งการใช้งานโปรเจคเตอร์ ว่าด้วยเรื่อง “เทคนิคโปรเจคเตอร์

1.เป็นคำถามยอดฮิตเลยก็ว่าได้เกี่ยวกับการฉายภาพโปรเจคเตอร์ ว่าทำไม ภาพที่ฉายออกไป ทำไมภาพจึงมีสีที่ Dropลงไป

ตอบ “ให้เพื่อนๆ ลองCheckถูกที่ หมวด LAMP เพราะบางที่ค่าโรงงานอาจตั้งไว้อยู่ที่ Normal หรือ Saving Mode ให้ลองทำการปรับให้เป็น Advance Mode หรือ High Mode เพื่อที่จะทำให้การทำงานของหลอดภาพนั้น ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่เพื่อนๆ ต้องคำนึงถึงอายุการใช้งานของหลอดด้วย เพราะถ้าเพื่อนๆ ใช้งานหลอดหนักเกินไป อายุหลอดก็จะสั้นลง ตามสภาพการใช้งาน

  1. อีกหนึ่งคำถามที่มักถามเข้ามาคือ “ควรใช้ Function Perfect Fit (ปรับหน้าจออัตโนมัติ) ดีหรือไม่ ?
  2. projector Credit : http://www.projectorpoint.co.uk/projectors/Sony_VPL-EX70

คำตอบ “ดี !! แต่เมื่อเพื่อนๆ กด ใช้งานฟังก์ชั่นนี้แล้ว ก็ควรที่จะปรับ H/V เพิ่มเติมด้วย เพราะไม่อย่างนั้นภาพที่ออกมา อาจจะไม่ตรงกับมุมมองของผู้ใช้งาน ควรปรับอีกครั้ง ให้ตรงกับความต้องการของเราอีกที จะช่วยลดระยะเวลาในการปรับหน้าจอลงอีกด้วย”

 

  1. เวลาดูหนัง ควรเลือกโหมด “Movie” ดีหรือไม่ ?

คำตอบ “ไม่จำเป็นเสมอไป กรณีที่ต้องการใช้โหมด Movie นี้ เพื่อนๆ ควรอยู่ที่จอรับภาพของตัวเองด้วย เพราะถ้ากรณีอย่างลูกค้าผมนำไปฉายเข้าพื้นบ้าน เป็นสีเขียวๆอ่อนๆ ถ้าเปิดโหมด Movie อาจจะทำให้ภาพนั้น สีออกเพี้ยนๆไป .. เพื่อนๆ น่าจะมองกันออกคนนะครับ ^^

บางครั้งฟังก์ชั่นที่มัน Auto หรือ Fix ตามนั้น ไม่ได้มีผลดีเสมอไป แต่ควรเลือกปรับในส่วน Advance Mode ด้วย เพื่อให้ภาพที่ฉายนั้น สวยงามไปตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่

 

ก็เป็นอันจบลงแล้วนะครับ สำหรับเทคนิคง่ายๆ ที่ประยุกต์ใช้ได้ในโปรเจคเตอร์หลายรุ่น หลายยี่ห้อไป

สำหรับวันนี้ผมก็ขอตัวลาไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ ^^

 



ขอบคุณบทความจาก : http://www.projectorok.com

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

พรีวิว Projector Hitachi รุ่น CP-TW3005

รีวิว โปรเจคเตอร์ Hitachi รุ่น CP-TW3005

 

 กลับมาเจอกันอีกแล้ว ประจำวันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559 กับการพรีวิวโปรเจคเตอร์ สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากอ่านรุ่นอื่นๆ สามารถติดตามได้ที่ลิ้งนี้เลยครับ  http://ok-projectorokreview.blogspot.com หรือถ้าเพื่อนๆ คนไหน สนใจซื้อสินค้า หรือดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม สามารถที่ติดตามได้ที่เว็บไซต์หลัก http://www.projectorok.com เลยจ้า

 

          วันนี้ผมจะมานำเสนอ projector แบบ Ultra short throw interactive หรือที่เรียกกันว่า โปรเจคเตอร์ฉายระยะสั้น กันอีกรุ่นนั้นก็คือรุ่น CP-TW3005  ส่วนใครที่ยังไม่รู้จักกับ โปรเจคเตอร์แบบ Ultra short throw interactive เดี๋ยวเราจะมาอธิบายให้ฟังกันอีกรอบนะครับ

 

         projectorแบบ Ultra short throw interactive เป็นโปรเจคเตอร์ที่ถูกออกแบบ Lens มาเป็นพิเศษเพื่อใช้ในการฉายภาพระยะใกล้ (ถึงใกล้มากๆ) โดยปกติแล้ว โปรเจคเตอร์แบบทั่วไปนั้นจะใช้ระยะห่างจากจอประมาณ 3 - 5 เมตรเพื่อฉายภาพขนาด 100 นิ้ว แต่ถ้าเป็นโปรเจคเตอร์แบบ Ultra short throw interactive นั้นสามารถฉายภาพขนาด 100 นิ้วได้โดยระยะห่างจากจอไม่ถึงเมตร การเลือกโปรเจคเตอร์แบบUltra short throw interactive นั้นให้สังเกตจากค่า Throw ratio ซึ่งถ้ามันมีค่ายิ่งน้อยนั้นแปลว่ามันนั้นสามารถฉายภาพขนาดใหญ่ได้แม้จะมีระยะฉายน้อยก็ตาม  ซึ่งเจ้าโปรเจคเตอร์ CP-TW3005 นั้นมีค่า Throw ratio อยู่ที่ 0.2:1 from edge of projector screen และ 0.3:1 mirror cover to screen

 

 

           โปรเจคเตอร์ CP-TW3005 มากับความละเอียดระดับ WXGA 1280*800 resolution พร้อมกับความสว่าง 3,300 ANSI lumens และยังมีอัตราความคมชัดสูงพร้อมกับฟังก์ชั่นมากมายที่จะทำให้ภาพที่ออกมากนั้นมีสีสันที่สดใสและคมชัด แม้โปรเจคเตอร์อย่าง CP-TW3005 นั้นจะใช้เทคโนโลชั้นสูงแต่ก็ถูกออกแบบมาให้ใช้ง่ายทำให้การฉายภาพนั้นเป็นเรื่องง่ายมากเลยทีเดียว

 

Key Features

- WXGA 1280 x 800 resolution
- 3,300 Ansi lumens white/color output
- 10000:1 contrast ratio

- HDMI 2 inputs
- Powered Focus / Perfect Fit
- Interactive pens
- Auto-calibration
- Multipen capability
- PC-less drawing
- Multi-display interactive

- HDCR/Accentualizer/Image Optimizer
- Optional finger touch module
- StarBoard Interactive Software in-cluded with no yearly subscription fee!
- Compatible with other top interactive software

 

ส่วน SPEC ทั้งหมดของโปรเจคเตอร์ CP-TW3005 ก็ตามข้อมูลด้านล่างเลยนะครับ

 

MODEL Projector Hitachi CP-TW3005
Display Projection Technology 3LCD, 3 chip technology
Resolution WXGA 1280 x 800
White Light Output 3,300 ANSI lumens
Color Light Output 3,300 ANSI lumens
Colors 16.7 million colors
Aspect Ratio Native 16:10 / 4:3 and 16:9 compatible
Contrast Ratio 10,000 : 1 (using active IRIS)
Throw Ratio (distance : width) 0.2 : 1 from edge of prejector to screen
0.3 : 1 from mirror cover to screen
Focus Distance 16" - 27" from mirror cover to screen
Display Size 60" - 100"
Lens & Operation Lens F = 1.8, f = 4.21 mm
Lap Wattage 250W
Expected Lamp Life* Approximately 4,000 hours (Sandard mode) 6,000 hours (Eco-2 mode)
Expected Filter Life** Approximately 4,000 hours
Speaker Output 16W
Keystone H and V: /- 5'
Compatibility Computer VGA, SVGA, XGA, WXGA/WXGA /SXGA/SXGA /UXGA(compressed), MAC 16"
H-Sync 15 kHz- 106kHz
V-Sync 50 Hz - 120Hz
Composite Video NTSC, NTSC4.43, PAL, PAL-M. -N, SECAM
Component Video 480i, 480p, 576i, 720p, 1080i, 1080p
HDMI 480i, 480p, 576i, 720p, 1080i, 1080, Computer signal TMDS Clock 27MHz - 150 Mhz
Connectors Digital Input HDMI x 2 (HDCP compliant)
Computer Input 1 15-pin mini D-sub x 1
Computer Unput 2 15-pin mini D-sub x 1
Computer Monitor Output 15-pin mini D-sub x 1 ( shared with computer in 2)
Videio Input  
     S-Video N/A
     Compositve Video RCA jack x 1
     Component Video 15-pin mini D-sub 2 (shared with computer in 1/2)
Audio Input 3.5mm stereo mini jack x 2, RCA jack (L/R) x 1
MIC-in 3.5 mm mini jack x 1
Audio Output 3.5mm stereo mini jack x 1
Network LAN Wired RJ-45 port (10 base-T / 100 base-TX)
Nework LAN Wireless USB-A, IEEE802.11 b/g/n - optional wireless adapter required
USB Type A x 2 (PC-less presentation, wireless adapter),
Type B x 1 (USB display or mouse control)
Control Terminals 9-pin D-sub x 1 (RS-232 control)
Ratings & Warranty Power Supply AC100-120V / AC220-240V, 50/60Hz
Power Consumption 360W
Operating Temperature 32  ํF - 104  ํF (0  ํC - 40  ํC)
Dimensions (W x D x H) 14.8" x 14.2 x 5.4" (excluding protruding parts)
Weight Approximately 4.5 kg
Approvals UL 60950-1 / cUL FCC Part 15 subpart B class B
Warranty 2 year limited parts and labor Extended Service Contract available (additional cost)

 


 

 

 

          

 

## สเปค โปรเจคเตอร์ ## ตัวนี้ทำมาได้ดีเลยทีเดียวทั้งความละเอียดระดับ WXGA 1280*800 และความสว่าง 3,300 Ansi lumens พร้อมกับฟังก์ชั่น Accentualizer และ HDCR ที่ทำให้ภาพที่ฉายออกมานัันคมชัดและสมจริงมากยิ่งขึ้น พร้อมกับระบบ Tabletop Presentation ที่ทำให้คุณนั้นสามารถใช้งานโปรเจคเตอร์ได้อย่างสบายแม้แต่ในพื้นที่จำกัด

Starboard Interactive Presentation Software ซอฟแวร์ระดับโลกของฮิตาชิ (SBS) เป็นมาตรฐานต่อในการทำงานร่วมกันแบ่งปันข้อมูลและซอฟต์แวร์ที่นำเสนอแบบไดนามิก กับอินเตอร์เฟซที่ปรับแต่งและแถบเครื่องมือ Starboard 

Cloning Function ฟังก์ชั่นที่สามารถก็อปปี้การตั้งค่าจากเครื่องหนึ่งสู่อีกเครื่องหนึ่งได้โดยผ่านอุปกรณ์ USB ทำให้การตั่งค่าโปรเจคเตอร์นั้นง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น

 ImageCare Technology เทคโนโลยีที่รวบรวมประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานเอาไว้ด้วยกันทำให้เมื่อฉายภาพออกมานั้นจะได้ประสิทธิภาพที่สูงสุดและใช้พลังงานคุ้มค่าที่สุด

 Interlligent Eco and Saver Modes ฟังก์ชั่นที่จะเปลี่ยนความสว่างของหลอดให้เป็นไปตามระดับแสงของห้อง บวกกับฟังก์ชั่น ImageCare ทำให้ประสิทธิภาพของภาพนั้นดีที่สุดและประหยัดพลังงาน

 Perfect Fit2 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับมุมมองแต่ละด้านอย่างอิสระ คุณสมบัตินี้จะช่วยให้ปรับทิศทางได้อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อช่วยให้ภาพที่ฉายนั้นถูกต้องและพอดีกับหน้าจอได้อย่างรวดเร็ว

 Projector Quick Connection App For Mobile Devices คุณสามารถเชื่อมต่อโปรเจคเตอร์ของคุณผ่าน Application บนระบบ IOS ได้อย่างรวดเร็วโดนผ่านอุปกรณ์เสริมอย่าง USBWL11N wireless adapter

 

// feauture standard //

- Input Source Naming ผู้ใช้สามารถตั้งชื่อเครื่อง ในภาษาที่เรียบง่ายแทนชื่อเริ่มต้นจากโรงงาน

- Microphone Input ไมโครโฟนสามารถนำมาใช้กับแจ็คที่อยู่บนแผงควบคุม ช่วยให้การนำเสนอแบบไดนามิกมากขึ้นแม้จะอยู่ในโหมดสแตนด์บาย

- Network Control, Maintenance and Security เครือข่ายสมองกลฝังตัวช่วยให้คุณมีความสามารถในการจัดการและควบคุมโปรเจคเตอร์หลายมากกว่าการเสียบสายแลน รวมถึงการจัดตารางเวลาของเหตุการณ์การรายงานส่วนกลาง, การถ่ายโอนภาพและการแจ้งเตือนอีเมลสำหรับการบำรุงรักษาปฏิกิริยาและกิจวัตรประจำวัน

- PC-Less Presentation โดยการใช้หน่วยความจำ USB หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูลอื่น ๆ ที่คุณสามารถใช้โปรเจคเตอร์โดยคอมพิวเตอร์ เมนูจะง่ายที่จะเห็นด้วยจอแสดงภาพขนาดย่อ นอกจากนี้ยังมีการแสดงภาพสไลด์และวิดีโอฟังก์ชั่น

- PIN Lock / MyScreen / MyText ผู้ใช้งานโปรเจคเตอร์ ล็อคหน้าจอด้วย PIN พร้อมบันทึกภาพบนหน้าจอเริ่มต้น ผู้ใช้สามารถตั้งชื่อใด ๆ ที่หน้าจออย่างชัดเจน พร้อมระบุความเป็นเจ้าของ ใส่ Serail Number และตำแหน่งที่ตั้งได้

- PJMessenger ที่ช่วยให้คุณส่งข้อความการแสดงผลและการแจ้งเตือนเสียงในโปรเจคเตอร์เครือข่ายของคุณ มันเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการส่งประกาศออกไปยังหลายหน่วย

- Present Content via LAN ห้องสวีทของฮิตาชิ มีซอฟต์แวร์เครือข่ายช่วยให้คุณสามารถส่งเนื้อหาโดยตรงจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณไปยังโปรเจคเตอร์ผ่านการเชื่อมต่อ LAN ของคุณ

- Template Fuction แม่แบบสายในเมนูโปรเจคเตอร์สามารถช่วยได้ เมื่อเขียนบนไวท์บอร์ด มีสี่ประเภทของแม่แบบเส้นให้เลือกเป็น

- Wireless Presentation Compatible เชื่อมต่อโปรเจคเตอร์ไปยังคอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายของคุณโดยใช้ Adapter ไร้สาย USB ตัวเลือก (Part Number USBWL11N) Adapter ที่รองรับ IEEE802.11n

         
      
โปรเจคเตอร์ Hitachi รุ่น TW3005 มีราคาอยู่ที่ 139,000 บาทครับ ราคาเบาๆ สำหรับเพื่อนๆคนไหนสนใจสินค้า ติดต่อได้เลยครับผม สำหรับวันนี้ผมขอตัวไปก่อนนะครับ ไว้ผมกับพรีวิวหน้า บ๊ายบายจ้าา ^^

สนใจข้อมูล โทร : 081-359-9940 ถึง 43



ขอบคุณบทความจาก : http://www.projectorok.com

วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

บทความ โปรเจคเตอร์ Hitachi รุ่น CP-TW2505

บทความ Projector Hitachi รุ่น CP-TW2505

   เจอกันอีกแว้ว ประจำสัปดาห์ที่สอง ประจำเดือนกุมภาพันธ์ กับการ preview projector สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากอ่านพรีวิว projectorรุ่นอื่นๆ สามารถติดตามได้ที่ลิ้งนี้เลยครับ >> http://ok-projectorokreview.blogspot.com หรือถ้ามีใคร สนใจช็อปสินค้า หรือดู Detail สินค้าเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่เว็บไซต์หลัก http://www.projectorok.com ได้เลยครับผม

    ซึ่งในวันนี้ทางเราจะมานำเสนอ โปรเจคเตอร์ แบบ Ultra short throw interactive หรือที่เรียกกันว่า โปรเจคเตอร์ฉายระยะสั้น กันอีกรุ่นนั้นก็คือรุ่น CP-TW2505  ส่วนใครที่ยังไม่รู้จักกับ โปรเจคเตอร์แบบ Ultra short throw interactive เดี๋ยวเราจะมาอธิบายให้ฟังกันอีกรอบนะครับ

    projector แบบ Ultra short throw interactive เป็นโปรเจคเตอร์ที่ถูกออกแบบ Lens มาเป็นพิเศษเพื่อใช้ในการฉายภาพระยะใกล้ (ถึงใกล้มากๆ) โดยปกติแล้ว projector แบบทั่วไปนั้นจะใช้ระยะห่างจากจอประมาณ 3 - 5 เมตรเพื่อฉายภาพขนาด 100 นิ้ว แต่ถ้าเป็นprojector แบบ Ultra short throw interactive นั้นสามารถฉายภาพขนาด 100 นิ้วได้โดยระยะห่างจากจอไม่ถึงเมตร การเลือกโปรเจคเตอร์แบบUltra short throw interactive นั้นให้สังเกตจากค่า Throw ratio ซึ่งถ้ามันมีค่ายิ่งน้อยนั้นแปลว่ามันนั้นสามารถฉายภาพขนาดใหญ่ได้แม้จะมีระยะฉายน้อยก็ตาม  ซึ่งเจ้าprojector CP-TW2505 นั้นมีค่า Throw ratio อยู่ที่ 0.2:1 from edge of projector screen และ 0.3:1 mirror cover to screen

     projector CP-TW2505 มากับความละเอียดระดับ WXGA 1280*800 resolution พร้อมกับความสว่าง 2,700 ANSI lumens และยังมีอัตราความคมชัดสูงพร้อมกับฟังก์ชั่นมากมายที่จะทำให้ภาพที่ออกมากนั้นมีสีสันที่สดใสและคมชัด แม้โปรเจคเตอร์อย่าง CP-TW2505 นั้นจะใช้เทคโนโลชั้นสูงแต่ก็ถูกออกแบบมาให้ใช้ง่ายทำให้การฉายภาพนั้นเป็นเรื่องง่ายมากเลยทีเดียว

 

Key Features

- ความละเอียด 1280x800
- ความสว่าง 2,700 ansi
- อัตราส่วน 10000:1
- HDMI 2 inputs
- พาวเวอร์โฟกัส
- ปากกาเขียนได้เลย
- Auto-calibration
- Multipen capability
- PC-less drawing
- Multi-display interactive
- HDCR/Accentualizer/Image Optimizer
- Optional finger touch module
- StarBoard Interactive Software in-cluded with no yearly subscription fee!
- Compatible with other top interactive software

ส่วน SPEC ทั้งหมดของโปรเจคเตอร์ CP-TW2505 ก็ตามข้อมูลด้านล่างเลยนะครับ

 

MODEL Projector Hitachi CP-TW2505
Display Projection Technology 3LCD, 3 chip technology
Resolution WXGA 1280 x 800
White Light Output 2,700 ANSI lumens
Color Light Output 2,700 ANSI lumens
Colors 16.7 million colors
Aspect Ratio Native 16:10 / 4:3 and 16:9 compatible
Contrast Ratio 10,000 : 1 (using active IRIS)
Throw Ratio (distance : width) 0.2 : 1 from edge of prejector to screen
0.3 : 1 from mirror cover to screen
Focus Distance 16" - 27" from mirror cover to screen
Display Size 60" - 100"
Lens & Operation Lens F = 1.8, f = 4.21 mm
Lap Wattage 250W
Expected Lamp Life* Approximately 5,000 hours (Sandard mode) 10,000 hours (Eco-2 mode)
Expected Filter Life** Approximately 4,000 hours
Speaker Output 16W
Keystone H and V: /- 5'
Compatibility Computer VGA, SVGA, XGA, WXGA/WXGA /SXGA/SXGA /UXGA(compressed), MAC 16"
H-Sync 15 kHz- 106kHz
V-Sync 50 Hz - 120Hz
Composite Video NTSC, NTSC4.43, PAL, PAL-M. -N, SECAM
Component Video 480i, 480p, 576i, 720p, 1080i, 1080p
HDMI 480i, 480p, 576i, 720p, 1080i, 1080, Computer signal TMDS Clock 27MHz - 150 Mhz
Connectors Digital Input HDMI x 2 (HDCP compliant)
Computer Input 1 15-pin mini D-sub x 1
Computer Unput 2 15-pin mini D-sub x 1
Computer Monitor Output 15-pin mini D-sub x 1 ( shared with computer in 2)
Videio Input  
     S-Video N/A
     Compositve Video RCA jack x 1
     Component Video 15-pin mini D-sub 2 (shared with computer in 1/2)
Audio Input 3.5mm stereo mini jack x 2, RCA jack (L/R) x 1
MIC-in 3.5 mm mini jack x 1
Audio Output 3.5mm stereo mini jack x 1
Network LAN Wired RJ-45 port (10 base-T / 100 base-TX)
Nework LAN Wireless USB-A, IEEE802.11 b/g/n - optional wireless adapter required
USB Type A x 2 (PC-less presentation, wireless adapter),
Type B x 1 (USB display or mouse control)
Control Terminals 9-pin D-sub x 1 (RS-232 control)
Ratings & Warranty Power Supply AC90-132V / AC198-264V, 50/60Hz
Power Consumption 360W
Operating Temperature 32  ํF - 104  ํF (0  ํC - 40  ํC)
Dimensions (W x D x H) 14.8" x 14.2 x 5.4" (excluding protruding parts)
Weight Approximately 4.5 kg
Approvals UL 60950-1 / cUL FCC Part 15 subpart B class B
Warranty 2 year limited parts and labor Extended Service Contract available (additional cost)

 


 

## สเปคโปรเจคเตอร์ ## ตัวนี้ทำมาได้ดีเลยทีเดียวทั้งความละเอียดระดับ WXGA 1280*800 และความสว่าง 2,700 Ansi lumens พร้อมกับฟังก์ชั่น Accentualizer และ HDCR ที่ทำให้ภาพที่ฉายออกมานัันคมชัดและสมจริงมากยิ่งขึ้น พร้อมกับระบบ Tabletop Presentation ที่ทำให้คุณนั้นสามารถใช้งานโปรเจคเตอร์ได้อย่างสบายแม้แต่ในพื้นที่จำกัด

Starboard Interactive Presentation Software ซอฟแวร์ระดับโลกของฮิตาชิ (SBS) เป็นมาตรฐานต่อในการทำงานร่วมกันแบ่งปันข้อมูลและซอฟต์แวร์ที่นำเสนอแบบไดนามิก กับอินเตอร์เฟซที่ปรับแต่งและแถบเครื่องมือ Starboard 

Cloning Function ฟังก์ชั่นที่สามารถก็อปปี้การตั้งค่าจากเครื่องหนึ่งสู่อีกเครื่องหนึ่งได้โดยผ่านอุปกรณ์ USB ทำให้การตั่งค่าโปรเจคเตอร์นั้นง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น

 ImageCare Technology เทคโนโลยีที่รวบรวมประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานเอาไว้ด้วยกันทำให้เมื่อฉายภาพออกมานั้นจะได้ประสิทธิภาพที่สูงสุดและใช้พลังงานคุ้มค่าที่สุด

 Interlligent Eco and Saver Modes ฟังก์ชั่นที่จะเปลี่ยนความสว่างของหลอดให้เป็นไปตามระดับแสงของห้อง บวกกับฟังก์ชั่น ImageCare ทำให้ประสิทธิภาพของภาพนั้นดีที่สุดและประหยัดพลังงาน

 Perfect Fit2 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับมุมมองแต่ละด้านอย่างอิสระ คุณสมบัตินี้จะช่วยให้ปรับทิศทางได้อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อช่วยให้ภาพที่ฉายนั้นถูกต้องและพอดีกับหน้าจอได้อย่างรวดเร็ว

 Projector Quick Connection App For Mobile Devices คุณสามารถเชื่อมต่อโปรเจคเตอร์ของคุณผ่าน Application บนระบบ IOS ได้อย่างรวดเร็วโดนผ่านอุปกรณ์เสริมอย่าง USBWL11N wireless adapter

 

// Standard Features //

- Input Source Naming ผู้ใช้สามารถตั้งชื่อเครื่อง ในภาษาที่เรียบง่ายแทนชื่อเริ่มต้นจากโรงงาน

- Microphone Input ไมโครโฟนสามารถนำมาใช้กับแจ็คที่อยู่บนแผงควบคุม ช่วยให้การนำเสนอแบบไดนามิกมากขึ้นแม้จะอยู่ในโหมดสแตนด์บาย

- Network Control, Maintenance and Security เครือข่ายสมองกลฝังตัวช่วยให้คุณมีความสามารถในการจัดการและควบคุมโปรเจคเตอร์หลายมากกว่าการเสียบสายแลน รวมถึงการจัดตารางเวลาของเหตุการณ์การรายงานส่วนกลาง, การถ่ายโอนภาพและการแจ้งเตือนอีเมลสำหรับการบำรุงรักษาปฏิกิริยาและกิจวัตรประจำวัน

- PC-Less Presentation โดยการใช้หน่วยความจำ USB หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูลอื่น ๆ ที่คุณสามารถใช้โปรเจคเตอร์โดยคอมพิวเตอร์ เมนูจะง่ายที่จะเห็นด้วยจอแสดงภาพขนาดย่อ นอกจากนี้ยังมีการแสดงภาพสไลด์และวิดีโอฟังก์ชั่น

- PIN Lock / MyScreen / MyText ผู้ใช้งานโปรเจคเตอร์ ล็อคหน้าจอด้วย PIN พร้อมบันทึกภาพบนหน้าจอเริ่มต้น ผู้ใช้สามารถตั้งชื่อใด ๆ ที่หน้าจออย่างชัดเจน พร้อมระบุความเป็นเจ้าของ ใส่ Serail Number และตำแหน่งที่ตั้งได้

- PJMessenger ที่ช่วยให้คุณส่งข้อความการแสดงผลและการแจ้งเตือนเสียงในโปรเจคเตอร์เครือข่ายของคุณ มันเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการส่งประกาศออกไปยังหลายหน่วย

- Present Content via LAN ห้องสวีทของฮิตาชิ มีซอฟต์แวร์เครือข่ายช่วยให้คุณสามารถส่งเนื้อหาโดยตรงจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณไปยังโปรเจคเตอร์ผ่านการเชื่อมต่อ LAN ของคุณ

- Template Fuction แม่แบบสายในเมนูโปรเจคเตอร์สามารถช่วยได้ เมื่อเขียนบนไวท์บอร์ด มีสี่ประเภทของแม่แบบเส้นให้เลือกเป็น

- Wireless Presentation Compatible เชื่อมต่อโปรเจคเตอร์ไปยังคอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายของคุณโดยใช้ Adapter ไร้สาย USB ตัวเลือก (Part Number USBWL11N) Adapter ที่รองรับ IEEE802.11n

         
      
โปรเจคเตอร์ Hitachi รุ่น TW2505 มีราคาอยู่ที่ 129,000 บาทครับ ก็จบลงแล้วนะครับ สำหรับการ preview projector ขอบคุณสำหรับเพื่อนๆ ที่คอยติดตามการพรีวิวมาโดยตลอด สำหรับวันนี้ทางเราต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ ในการพรีวิวหน้า สวัสดีครับ ^^

สนใจข้อมูล โทร : 081-359-9940 ถึง 43



ขอบคุณบทความจาก : http://www.projectorok.com