วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เรื่อง : Technology ของ โปรเจคเตอร์ คัดสรรมาให้ ^^

สวัสดีครับ วันนี้ผมมาประจำการเขียนบทความเนื้อหาดีๆเกี่ยวกับเรื่องของโปรเจคเตอร์ เมื่อวันก่อนผมพูดถึงเรื่องของค่า Contrast กับ Aspect ไปแล้วนะเด้อ ว่าสองอย่างนี้คืออะไร ทำบทบาทหน้าที่อย่างไร
     แต่วันนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่อง เทคโนโลยีของโปรเจคเตอร์ (Technoloy Projector) ว่าเทคโนโลยีมีกี่แบบ ถ้าใครพอมีความรู้เรื่องโปรเจคเตอร์มาบ้าง จะรู้ว่ามันมีแบบ LCD,3LCD ฯลฯ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่ามันแต่ละอย่างนั้น มันทำงานอย่างไร แตกต่างกันหรือไม่ เพื่อไม่เป็นการรอช้า เรามาเริ่มกันเลยนะครับ!! ฮิฮิ้วววววววว

     ในยุคปัจจุบันนี้ Techonology สำหรับ Projector มีหลากหลาย วันนี้ผมจะมาพูดถึงตัวที่คนพูดถึงกันมากที่ใช้กันในสมัยนี้หรือค่อนข้างเห็นบ่อยพอสมควร คือ 1.LCD-3LCD 2.DLP และ LCOS เรามาเริ่มดูกันแต่ละ Technology เลยนะครับ

     1. เทคโนโลยีแบบ LCD (Liquid Crystal Display) คือการทำงานจะทำโดยการปล่อยลำแสงออกจากแผ่น LCD 3แผ่น ซึ่งมันจะประกอบด้วย ซิลิคอนขนาดเล็ก นำมาเรียงเข้าด้วยกัน หรือประกอบเข้าด้วยกันเป็นแผงๆ แต่ละชิ้น จะทำหน้าที่ของตัวมันเอง คือ การปล่อยแม่สีของตัวเองออกมา นั้นก็คือ Red Green Blue ปล่อยออกมาเพื่อเป็นตัวสร้างภาพ การส่งแสงผ่านแผ่น LCD ทำให้สูญเสียค่าแสงเล็กน้อย ภาพที่แสดงออกมา จึงมีความสดใส และสามารถแสดงสีสันได้อย่างสมจริงเป็นธรรมชาติ โดยปัจจุบันนี้จะมีแบบ Single-LCD และ 3LCD


     2. เทคโนโลยีแบบ DLP (Digital Light Processing) คือ เทคโนโลยีเพื่อการสร้างแบบ ดิจิตอล ผู้คิดค้นคือ Texas Instrument ลักษณะการทำงานคือ จะใช้เพียง Chipset เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น หรือที่เราเรียกมันว่า DMD-Ship (Digital Micro Mirror Device Ship) ซึ่งภายในนี้จะประกอบไปด้วยกระจกเพียงชิ้นเล็กๆ เท่านั้น แต่มีปริมาณมาก เพื่อใช้แสดงผลของ Pixel ของภาพ จำนวนชิ้นกระจกจะแสดงถึงความละเอียดของภาพ ยิ่งกระจกมากเท่าไหร่ ความคมชัดยิ่งมากขึ้นเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกัน ภาพก็มีความสว่างสูงอีกด้วย ในปัจจุบันจะมี Single-Chip DLP คือการใช้ตัว DMD-Chip เพียงตัวเดียวพร้อมกับวงล้อสีและ 3-Chip DLP คือการใช้ DMD-Chip 3 ตัว ในการทำงาน แล้วใช้ปริซึมในการแบ่งแยกสีออกมาอีกที

projectorok.com">

     3. เทคโนโลยีแบบ LCOS (Liquid Crystal On Silicon) คือ เทคโนโลยีแบบผสมเข้าด้วยกัน ระหว่าง ตัวเทคโนโลยีแบบ LCD และ เทคโนโลยีแบบ DLP วัตถุประสงค์คือ ต้องการลดข้อจำกัดของ เทคโนโลยีทั้งสอง 2 แบบลง ทำให้มันมีน้ำหนักเบา ขนาดเล็ก และ ให้ความสว่าง และ ความละเอียดสูง โดยจะความละเอียดจะเริ่มที่ SXGA (1365*1024) การทำงานแบบ LCOS จะทำใช้เทคโนโลยีสะท้อนแสงของ DLP แต่จะใช้แผ่น LCD 3แผ่น ในการแสดงแม่สีออกมา (สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน)


"วิเคราะห์ข้อดี LCD -VS- DLP ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" 
     ข้อดีสำหรับเทคโนโลยีแบบ LCD ก้คือ ทำให้ภาพที่มีความสว่างมากกว่า สีสดกว่า ในจำนวนวัตต์ ที่เท่ากัน ทำให้ได้ภาพมีชีวิตชีวา อีกข้อที่สำคัญมากคือ ให้ภาพนิ่งที่คมชัดมากกว่า เนื่องจากระยะห่างแต่ะ Pixel พอสมควร ทำให้แต่ละจุดแสดงสีได้ชัดเจนกว่า จึงเหมาะกับการใช้ชี้แจงภาพนิ่ง ในการประชุม ในการพรีเซนต์ หรือใช้ในการสาธิต ศึกษาหาความรู้ !!
     สำหรับข้อเสียของเทคโนโลยีแบบ LCD คือ ภาพที่ได้จะเป็นจุดๆของ Pixel มีความนุ่มนวลที่น้อยกว่า ข้อเสียอีกข้อก็คือ ระบบ LCD มีส่วนประกอบหลายชิ้นมากกว่าแบบ DLP และส่วนประกอบแต่ละชนิดมีราคาแพง ซึ่งเทคโนโลยีแบบ LCD มีโอกาสเสียได้มากกว่าเทคโนโลยีแบบ DLP

     ข้อดีสำหรับเทคโนโลยีแบบ DLP คือ มีระยะห่างระหว่าง Pixel น้อยกว่า ทำให้ภาพที่ได้นั้น มีความนุ่มนวล(Smooth) และให้ค่า Contrast สูงกว่า เหมาะกับการชมภาพยนตร์ ดูหนังเป็นต้น
     สำหรับข้อเสียของเจ้าตัวเทคโนโลยีแบบ DLP ก็คือ ภาพที่ได้ หากมองกวาดตา จากด้านหนึ่งของหน้าจอไปยังอีกด้านของหน้าจอ จะมองเห็นภาพเป็นแถบๆ เหมือนเป็นทางม้าลาย นอกจากนี้อาจพบขอบจอเป็นแถบสีเทาเล็กๆ อันเกิดจากกระกระจายของแสง.

สรุป ข้อดีและข้อเสียของ LCD และ DLP
ข้อดี LCD
     1. มีความสด ความคมชัดของสี และความสว่างที่ชัดเจนกว่า DLP
     2. มีความสว่างของแสงมากกว่าในขณะที่กำลังวัตต์ (watt) เท่ากัน
ข้อเสีย LCD
     1. ระดับความเข้มของสีดำ และค่า Contrast ยังไม่มากพอ
ข้อดี DLP
     1. มีน้ำหนักเบากว่า ในขนาดความสว่างที่เท่ากับ LCD
     2. Contrast Ratio & Black Level ที่ดีกว่า
ข้อเสีย DLP
     1. มีปัญหาประกายรุ้ง หรือที่เรารู้กันจักกันในนาม Rainbow Effect (ในบางรุ่นเท่านั้น)
_______________*********_______________

//จบไปแล้วนะครับสำหรับบทความนี้ จัดหนักจัดเต็มให้ตลอดนะครับ เมื่อคุณขอมา เราจัดให้ได้ ^^//

     อย่าลืมนะขอรับ ก่อนเลือกซื้อ Projector ควรศึกษารายละเอียดของสินค้าก่อน เมื่อศึกษาแล้ว ควรมองย้อนกลับมาถึงตัวเราว่า เราจะนำไปใช้งานแบบไหน ติดห้องประเภทอะไร ถ้าเราทำความเข้าใจ 2 เรื่องนี้แล้ว... เมื่อเราทำการตัดสินใจเลือกซื้อโปรเจคเตอร์ ผมการันตีว่า ไม่เสียดายเงินฟรีแน่ๆครับ แต่ถ้าเพื่อนๆ ไม่มั่นใจ ก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ ในสมัยปัจจุบันมีเว็บไซต์หลากหลายที่ให้ความรู้ หรือแนะนำสาระดีๆ ผมอยากให้เพื่อนอ่านๆ สักนิดก่อนจะตัดสินใจซื้อ เพื่อที่จะได้ไม่ผิดหวังเหมือนผม 55 ^^ (เด่ววันหลังผมจะมาเล่าประสบการณ์ ในการเลือกซื้อโปรเจคเตอร์ตัวแรก ของผมให้ฟังก่อน รับรอง เครียด ฮา เศร้า ^^)

ปล. สำหรับวันนี้ถ้าไม่มีอะไรแล้ว กระผมขอตัวก่อนนะครับ ปั้นงานต่อ ^^ อยากรู้เรื่องไหน ขอเข้ามาได้ ทาง Facebook - Website. ถ้าว่างผมจะจัดข้อมูลให้อย่างฉับไว!! ^^ ยะฮู้วว ไปแล้ววววว

หากผู้ใช้สนใจ อ่านบทความ สามารถติดตามได้ที่นี่
FACEBOOK : www.facebook.com/projectorok
เว็ปไซต์ : www.projectorok.com
_______________*********_______________
บทความเพิ่มเติม
   เรื่องอัตราส่วน CONTRAST คลิกอ่าน
   เรื่องอัตราส่วนภาพ ASPECT RATIO คลิกอ่าน
   เรื่องเทคโนโลยีสำหรับโปรเจคเตอร์ คลิกอ่าน
   เรื่องหลอดโปรเจคเตอร์ คลิกอ่าน
   เรื่องช่องต่อสัญญาณ คลิกอ่าน



ที่มา : http://www.projectorok.com/index.php?route=information/news/detail&news_id=258

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น